หน้าเว็บ

26 ตุลาคม 2555

ศูนย์สุขภาพชุมชนโรงพยาบาลบ้านผือ


เรื่องเล่าจากการทำงาน

ชื่อผลงาน   การตรวจมะเร็งปากมดลูกแบบ  Delivery
เจ้าของผลงาน  นางนิภาพร    อุทาทอง   หน่วยงาน   ศูนย์สุขภาพชุมชนโรงพยาบาลบ้านผือ

             จากการติดตามข้อมูลการตรวจมะเร็งปากมดลูก (PAP  SMEAR)ในกลุ่มหญิงวัยเจริญพันธุ์และวัยทอง พบว่ากลุ่มเป้าหมายที่มารับการตรวจไม่ครอบคลุม  และพบว่าผู้มารับบริการส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเดิมที่เคยตรวจมาแล้ว     ส่วนกลุ่มใหม่ที่ไม่เคยมาตรวจก็พบว่า     ยังไม่ตระหนักและเห็นความสำคัญในการตรวจคัดกรอง  จึงทำให้ได้ข้อมูลการตรวจที่ซ้ำรายเดิม  และได้ผลงานน้อย   ดังนั้นจะเห็นได้ว่ากลุ่มเป้าหมายที่ทางกระทรวงสาธารณสุข กำหนดให้นั้น  เป็นเพียงกลุ่มน้อยเท่านั้น เมื่อเทียบกับกลุ่มหญิงวัยเจริญพันธ์  (20-35 ปี)   และวัยทอง  (36-59 ปี)  ทั้งหมด  จากการทำโครงการออกตรวจที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะเน้นตรวจในเชิงรับ  คือ  ประชาสัมพันธ์ในหมู่บ้าน  แล้วรอตรวจในโรงพยาบาล  ต่อมาได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการทำงานใหม่  โดยเน้นการทำงานเชิงรุกและการสร้างเครือข่ายในชุมชน  อีกทั้งการสร้างเสริมกำลังใจ หรือ การใช้ปัจจัยแรงบวก เช่น  มีของแจกเพื่อเป็นกำลังใจ  ในการดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย  โดยมีการออกตรวจเชิงรุกในหมู่บ้าน  มีการประชาสัมพันธ์ผ่านทางเครือข่าย อสมช. รายบุคคล   อีกทั้งมีการติดตามเก็บตกวันต่อวัน  มีบริการแจ้งผลการตรวจผ่านทาง อสมช.ถึงกลุ่มเป้าหมายรายบุคคล มีแผนเฝ้าระวังและติดตามกลุ่มเป้าหมายที่มีความเสี่ยงของเซลล์บริเวณปากมดลูกชัดเจน  เช่น  กลุ่มที่มีการอักเสบบริเวณปากมดลูก  จะนัดมาให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องและนัดตรวจซ้ำทุก  6  เดือน  กลุ่มที่มีการติดเชื้อบริเวณช่องคลอดก็มีการนัดมาพบแพทย์เพื่อรักษาและนัดตรวจซ้ำทุก  6  เดือน  ส่วนกลุ่มที่มีผลเซลล์ผิดปกติก็มีการติดตามมารับคำปรึกษาและส่งตัวไปพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อรักษาตามขั้นตอน  มีการออกเยี่ยมบ้านทุกราย  ในรายที่แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกรายใหม่  อีกทั้งติดตามการรักษาและการปฏิบัติตัวหลังกลับจากโรงพยาบาล  เพื่อให้คำแนะนำและให้กำลังใจในการปรับตัวให้อยู่กับโรคที่เป็นอยู่อย่างเหมาะสมมากที่สุด  จึงทำให้ได้ ผลงานบรรลุตามเป้าหมายตัวชี้วัดที่ตั้งไว้ทุกปี  แต่จากการวิเคราะห์ผลงานที่ผ่านมายังพบจุดอ่อนที่จะต้องพัฒนาต่อไปคือ ผลงานยังไม่บรรลุเป้าหมายความครอบคลุมประชากรกลุ่มหญิงวัยเจริญพันธ์ทั้งหมด  ดังนั้นจึงต้องมีการปรับปรุงและสานต่อโครงการให้มีความต่อเนื่องและเข้าถึงชุมชุมให้มากยิ่งขึ้น  โดยอาศัยเครือข่ายที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน จะต้องมีการพัฒนาระบบการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก  ให้มีความสะดวก  รวดเร็วและสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ  และอยู่ในช่วงเวลาที่มีความเหมาะสมกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชากรในชุมชน

บทเรียนจากการทำงาน
1.    การนำข้อมูลส่วนดีและส่วนขาดมาทบทวนและวิเคราะห์หาสาเหตุและที่มาของปัญหา  ทำให้ได้มีการพัฒนาระบบบริการให้มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง  และยั่งยืน
2.    การเรียนรู้งานร่วมกันแบบเป็นทีมหรือมีครือข่ายที่ชัดเจน  จะทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น และไม่เหนื่อยจนเกินไป



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน