เรื่องเล่า
“ลูกเกิดรอด แม่ปลอดภัย”
นางรุจิรา อุทัย
พยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลบ้านผือ
ศูนย์สุขภาพชุมชนโรงพยาบาลบ้านผือ
ผู้รับบริการรายหนึ่ง
เป็นผู้พิการด้านสติปัญญาได้มาฝากครรภ์ครั้งแรกขณะอายุครรภ์ได้ประมาณ 24 สัปดาห์ จากการซักประวัติพบว่าเป็นครรภ์ที่ 2 (ครรภ์แรกคลอดโดย
C/S
due to DFIU)
สอบถามญาติได้ความว่าถูกสามีซึ่งมีอาการทางประสาททุบตีบ่อยครั้งและไม่ยินยอมให้ภรรยามาฝากครรภ์ตามแพทย์นัดโดยอ้างว่าเสียเวลาทำมาหากินและมาตำหนิ
จนท.ทางรพ.ด้วย ทำให้การฝากครรภ์รายนี้ลำบากมากต้องออกไป
ANC ที่บ้านและในเวลาช่วงสามีไม่อยู่บ้านด้วย หลังจากตรวจครรภ์และคัดกรองภาวะเบาหวานพบว่ามารดามีภาวะ
GDMA2
1
เดือนต่อมาได้รับข่าวว่าสามีเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต
หญิงตั้งครรภ์จึงอาศัยอยู่ในบ้านคนเดียวและไม่สามารถฉีดยาเบาหวานได้เอง ข้าพเจ้าและเพื่อนร่วมงานได้มีการปรึกษาและหาทางช่วยเหลือ
case
นี้เป็นพิเศษ โดยทำการสอน
อสม.เกี่ยวกับการฉีดยาเบาหวานและการเก็บรักษายา จัดจนท.รับ-ส่งมาANCและพบแพทย์ตามนัด
มีการออกเยี่ยมที่บ้านทุกอาทิตย์จนกว่าจะคลอดและมีการเน้นย้ำในการสังเกตลูกดิ้นแก่หญิงตั้งครรภ์
อีกทั้งสอนเรื่องการดูแลหญิงตั้งครรภ์และอาการผิดปกติแก่อสม.และญาติร่วมด้วย ซึ่งได้รับความร่วมมือจากชุมชนเป็นอย่างดี
ปัญหาอีกอย่างที่ตามมาคือหากคลอดแล้วมารดาและทารกแรกเกิดจะไม่มีใครดูแลเนื่องจากญาติทางหญิงตั้งครรภ์มีรายได้น้อยทาง
จนท.จึงได้ประสานกับสอ.ที่ทางญาติฝ่ายสามีอาศัยอยู่และขอความช่วยเหลือในการติดต่อสื่อสารกันหลังจากนั้นจึงมีการตกลงร่วมกันระหว่างญาติทั้ง2ฝ่ายโดยให้ฝ่ายทางหญิงตั้งครรภ์ดูแลจนกว่าจะคลอดและทางฝ่ายสามีจะดูแลแม่และเด็กหลังคลอดเอง
หลังจากนั้นพออายุครรภ์ครบกำหนดก็ได้รับความร่วมจากสูติแพทย์ทำการผ่าตัดคลอดและทำหมันให้ส่วนทารกแรกเกิดเพศชายน้ำหนักแรกเกิด
2200กรัม แข็งแรงดีมีญาติมาคอยดูแลจนกระทั่งกลับบ้าน
ส่วนทางศูนย์สุขภาพชุมชนก็ประสานกับสถานีอนามัยใกล้บ้านดูแลหลังคลอดต่อเนื่องต่อไป
จากประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันทุกหน่วยงานในการทำงานเป็นทีมและการทำงานโดยการใช้แรงกายและที่สำคัญคือแรงใจในการทุ่มเทอุปสรรคหรือปัญหาต่างๆก็จะหมดไปเกิดความรัก
ความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกันและมีภาคีเครือข่ายที่เข้มแข็งกว้างไกลยิ่งขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น